สมัครเภสัชศาสตร์ มหิดล รอบ Portfolio TCAS 2569 | เกณฑ์ + เทคนิค

pharmacy-mahidol-portfolio-tcas-2569-complete-guide

สมัครเภสัชศาสตร์ มหิดล รอบ Portfolio: คู่มือครบครัน TCAS 2569

หากเธอฝันอยากเป็นเภสัชกรและกำลังมองหาโอกาสเข้าศึกษาในคณะเภสัชศาสตร์ที่ดีที่สุดในประเทศ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล รอบ Portfolio คือช่องทางที่เปิดโอกาสให้นักเรียนที่มีความโดดเด่นได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ วันนี้เราจะมาแชร์ทุกอย่างที่ต้องรู้เกี่ยวกับการสมัครรอบนี้แบบละเอียดทุกขั้นตอน

ทำไมต้องเลือกรอบ Portfolio?

รอบ Portfolio ของคณะเภสัชศาสตร์ มหิดล เป็นรอบที่เหมาะสำหรับน้องๆ ที่:

  • มีผลการเรียนดีสม่ำเสมอ โดยเฉพาะวิชาวิทยาศาสตร์
  • มีผลงานโดดเด่น ทั้งด้านวิชาการ ความเป็นผู้นำ หรือการวิจัย
  • มีแรงบันดาลใจชัดเจน ในการเป็นเภสัชกร
  • สื่อสารและนำเสนอตัวเองได้ดี

ข้อมูลพื้นฐานที่ต้องรู้

จำนวนและค่าใช้จ่าย

  • จำนวนที่รับ: เพียง 20 คน (แข่งขันสูง!)
  • รอบที่ 1/2: ไม่เปิดรับ
  • ค่าธรรมเนียมทั้งหลักสูตร: 360,000 บาท
  • การชำระ: แบ่งเป็นภาคการศึกษาละ 30,000 บาท

คุณสมบัติผู้สมัคร: ต้องผ่านทุกข้อ!

คุณสมบัติทั่วไป

ระดับการศึกษา

  • กำลังศึกษาชั้น ม.6 (ระบบไทย)
  • หรือ Grade 12 (ระบบอเมริกัน)
  • หรือ Year 13 (ระบบอังกฤษ) สำหรับ International High School

เกรดเฉลี่ยที่ต้องมี (4 ภาคการศึกษา)

  • GPAX: ไม่ต่ำกว่า 3.50
  • GPA วิชาเคมี: ไม่ต่ำกว่า 3.50
  • GPA วิชาชีววิทยา: ไม่ต่ำกว่า 3.50
  • GPA วิชาฟิสิกส์: ไม่ต่ำกว่า 3.50
  • GPA วิชาคณิตศาสตร์: ไม่ต่ำกว่า 3.50
  • GPA วิชาภาษาอังกฤษ: ไม่ต่ำกว่า 3.50

💡 เคล็ดลับ: หากเกรดใดยังไม่ถึง ให้เพิ่มความพยายามในเทอมสุดท้าย เพราะทุก 0.01 คะแนนมีความสำคัญ!

คุณสมบัติเฉพาะสำคัญ

ด้านสัญชาติและประวัติ

  • ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย
  • ไม่เคยต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุด

ด้านสุขภาพ (ข้อสำคัญมาก!) ต้องมีสุขภาพสมบูรณ์ ปราศจากโรคที่เป็นอุปสรรคต่อวิชาชีพเภสัชกรรม:

  • ไม่เป็นโรคจิตที่อันตรายต่อตนเองหรือผู้อื่น
  • ไม่เป็นโรคติดต่ออันตราย
  • ไม่เป็นตาบอดสี (ต้องผ่าน Ishihara Test และ Farnsworth D-15 hue Test)
  • ไม่หูหนวก
  • ไม่เป็นโรคอื่นๆ ตามที่สภาเภสัชกรรมกำหนด

คุณสมบัติเพิ่มเติมที่ช่วยให้โดดเด่น

1. คะแนนภาษาอังกฤษ (5% ของคะแนนรวม)

หากมีคะแนนภาษาอังกฤษใดใดข้างล่างนี้ จะได้เปรียบมาก:

  • MU-ELT: 84 ขึ้นไป
  • TOEIC: 600 ขึ้นไป
  • TOEFL IBT: 64 ขึ้นไป
  • IELTS: 5.0 ขึ้นไป
  • TOEFL ITP (มหิดลจัด): 500 ขึ้นไป
  • Duolingo English Test: 90 ขึ้นไป

⚠️ หมายเหตุ: หากไม่มีคะแนนภาษาอังกฤษยังสมัครได้ แต่จะไม่ได้คะแนนส่วนนี้

2. คุณสมบัติทักษะทางวิชาการ (30% ของคะแนนรวม)

ประเภทที่ยอมรับ:

  • รางวัลจากการแข่งขันโอลิมปิกระดับชาติ
  • ผ่านการอบรม สอวน. (สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) อย่างน้อยค่าย 1 ในสาขา:
    • เคมี
    • ชีววิทยา
    • ฟิสิกส์
    • คณิตศาสตร์
    • คอมพิวเตอร์
  • รางวัลชนะเลิศ/รองชนะเลิศ การแข่งขันทางวิทยาศาสตร์ระดับชาติ/นานาชาติ/ภูมิภาค

3. คุณสมบัติความเป็นผู้นำ (15% ของคะแนนรวม)

ตำแหน่งที่ยอมรับ:

  • หัวหน้าโครงการ/ชมรม ของโรงเรียน
  • ตัวแทนหรือผู้จัดกิจกรรมของโรงเรียน

ด้านที่เกี่ยวข้อง:

  • กิจกรรมทางเภสัชกรรม
  • กิจกรรมทางการแพทย์
  • กิจกรรมทางสาธารณสุข

💡 เทคนิค: หากยังไม่มี ให้รีบหาโอกาสเข้าร่วมหรือจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องในช่วงที่เหลือ

4. คุณสมบัติทักษะทางการวิจัย (20% ของคะแนนรวม)

ประเภทที่ยอมรับ:

  • รางวัลโครงการวิจัยระดับชาติหรือนานาชาติ
  • ในสาขาที่เกี่ยวข้อง: เภสัชกรรม/การแพทย์/สาธารณสุข/วิทยาศาสตร์

ข้อมูลที่ต้องระบุในใบสมัคร:

  1. ลิงค์เว็บไซต์หน่วยงานที่ออกรางวัล
  2. ระบุระดับ (ชาติ/นานาชาติ)
  3. ประเภทรางวัล (แข่งขัน/เข้าร่วม)
  4. บทบาทในโครงการ (หัวหน้า/กรรมการ/ผู้จัด)

การเตรียม Portfolio ให้โดดเด่น

Statement of Purpose (10% ของคะแนนรวม)

เนื้อหาที่ต้องมี:

  1. แนะนำตนเอง – เล่าเรื่องราวที่ทำให้เธอน่าสนใจ
  2. เหตุผลที่อยากเรียนเภสัชศาสตร์ที่มหิดล – ต้องเจาะจงและมีเหตุผล
  3. แรงบันดาลใจ – เล่าประสบการณ์ที่ทำให้รักวิชาชีพนี้
  4. เป้าหมายหลังจบ – วิสัยทัศน์ที่ชัดเจน
  5. คุณสมบัติที่เหมาะสม – เชื่อมโยงกับหลักฐานสนับสนุน

รูปแบบการเขียน:

  • ภาษาไทย: TH Sarabun ขนาด 16 pts
  • ภาษาอังกฤษ: Times New Roman ขนาด 11 pts
  • ความยาว: ไม่เกิน 2 หน้ากระดาษ A4
  • ขอบกระดาษ: 1 นิ้วทั้ง 4 ด้าน

การจัดทำ Portfolio (ไม่เกิน 10 หน้า)

หลักการสำคัญ:

  • ไม่ต้องมีปก คำนำ สารบัญ หรือตกแต่งเกินจำเป็น
  • เน้นเนื้อหาที่มีคุณค่า
  • จัดเรียงตามลำดับความสำคัญ
  • ใช้ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษได้

โครงสร้างที่แนะนำ:

  1. Statement of Purpose (2 หน้า)
  2. ใบประกาศนียบัตรทักษะวิชาการ (2-3 หน้า)
  3. หลักฐานความเป็นผู้นำ (2-3 หน้า)
  4. ผลงานวิจัย/โครงงาน (2-3 หน้า)

เอกสารที่ต้องเตรียม: ไม่ให้ผิดพลาด!

1. รูปถ่าย

  • ขนาด: 1.5×2 นิ้ว
  • คุณภาพ: เห็นใบหน้าชัดเจน ใบหน้า 80% ของพื้นที่
  • การแต่งกาย: ชุดนักเรียนหรือชุดสุภาพ ไม่สวมหมวก/แว่น
  • พื้นหลัง: สีขาว/ฟ้า/น้ำเงิน
  • ไฟล์: .jpg ขนาด 180-500×200-600 พิกเซล ไม่เกิน 240 KB

2. เอกสารทางการ

  • บัตรประจำตัวประชาชน (PDF ไม่เกิน 2 MB)
  • สำเนาทะเบียนบ้าน (PDF ไม่เกิน 2 MB)
  • ระเบียนแสดงผลการเรียน ปพ.1 ชั้น ม.4-5 (4 ภาคการศึกษา)
  • ใบรับรองคะแนน GPAX และ GPA

💡 สำคัญ: ทุกเอกสารต้องเขียน “รับรองสำเนาถูกต้อง” และลงลายมือชื่อ

3. ใบรับรองแพทย์

  • ใช้แบบฟอร์มของคณะฯ เท่านั้น
  • ตรวจที่โรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน
  • อายุไม่เกิน 6 เดือน
  • สิ่งที่ต้องตรวจ:
    • การตรวจตาบอดสี (Ishihara + Farnsworth D-15)
    • การตรวจทั่วไป ตามแบบฟอร์ม

ขั้นตอนการสมัคร: ห้ามพลาด!

ระยะเวลาสำคัญ

  • สมัครในระบบ MU TCAS: ตามประกาศ
  • Upload เอกสารเพิ่มเติม: 1-16 ตุลาคม 2568 ก่อน 12.00 น.
  • ประกาศผู้มีสิทธิ์สัมภาษณ์: 30 ตุลาคม 2568
  • สัมภาษณ์: 2 พฤศจิกายน 2568

การสัมภาษณ์ (20% ของคะแนนรวม)

ค่าธรรมเนียม: 1,000 บาท

เนื้อหาที่มักถูกถาม:

  • แรงบันดาลใจในการเป็นเภสัชกร
  • ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับวิชาชีพ
  • การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
  • บุคลิกภาพและการสื่อสาร

เทคนิคการเตรียมตัว:

  1. ศึกษาข้อมูลคณะฯ ให้ลึกซึ้ง
  2. ฝึกพูด เรื่องแรงบันดาลใจให้คล่อง
  3. อ่านข่าวสาร เกี่ยวกับวิชาชีพเภสัชกรรม
  4. ฝึกตอบคำถาม สถานการณ์จำลอง
  5. เตรียมคำถาม ที่อยากถามคณะฯ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมคลิก

เกณฑ์การคัดเลือก: รู้ไว้เพื่อวางกลยุทธ์

สัดส่วนคะแนน

  • ทักษะทางวิชาการ: 30%
  • ความเป็นผู้นำ: 15%
  • ทักษะทางการวิจัย: 20%
  • คะแนนภาษาอังกฤษ: 5%
  • Statement of Purpose: 10%
  • การสัมภาษณ์: 20%
  • การตรวจสุขภาพ: ผ่าน/ไม่ผ่าน

เคล็ดลับการเตรียมตัวให้ได้เปรียบ

สำหรับนักเรียน ม.4-5

  1. เน้นเกรด ในวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์
  2. หาโอกาส เข้าร่วมแข่งขันทางวิชาการ
  3. สร้างผลงาน ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ/วิทยาศาสตร์
  4. พัฒนาภาษาอังกฤษ เพื่อเตรียมสอบ

สำหรับนักเรียน ม.6

  1. รักษาเกรด เทอมสุดท้าย
  2. เตรียม Portfolio ให้โดดเด่น
  3. ฝึกเขียน Statement หลายๆ แบบ
  4. เตรียมตัวสัมภาษณ์ อย่างจริงจัง

อนาคตหลังจบ: ทำไมต้องเป็นเภสัชกร?

ตัวเลือกอาชีพที่หลากหลาย

  • เภสัชกรโรงพยาบาล – ดูแลผู้ป่วยโดยตรง
  • เภสัชกรร้านยา – เป็นเจ้าของธุรกิจ
  • เภสัชกรโรงงานยา – วิจัยและพัฒนายา
  • เภสัชกรการตลาด – ขายผลิตภัณฑ์สุขภาพ
  • เภสัชกรประจำบ้าน – เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
  • นักวิชาการ – สอนและวิจัย

การศึกษาต่อ

  • ปริญญาโท/เอก สาขาเภสัชเคมี
  • ปริญญาโท/เอก สาขาเภสัชกรรมคลินิก
  • ปริญญาโท/เอก สาขาเภสัชอุตสาหกรรม
  • เภสัชกรประจำบ้าน ในสาขาต่างๆ

คำถามที่พบบ่อย

Q: หากเกรดยังไม่ถึงเกณฑ์ จะทำอย่างไร?

A: ยังมีเวลาปรับเกรดในเทอมสุดท้าย แต่หากไม่ทัน ให้พิจารณารอบ Quota ที่ใช้คะแนน A-Level แทน

Q: ไม่มีผลงานโดดเด่น สมัครได้ไหม?

A: สมัครได้ แต่ต้องเขียน Statement ที่ดีมากๆ และเตรียมสัมภาษณ์ให้เต็มที่

Q: Portfolio ต้องสวยงามไหม?

A: ไม่จำเป็น เน้นเนื้อหาที่มีคุณค่ามากกว่าการออกแบบ

Q: ต้องเก่งภาษาอังกฤษมากไหม?

A: ไม่มีคะแนนก็สมัครได้ แต่ถ้ามีจะได้เปรียบ 5%

สรุป: ก้าวแรกสู่เภสัชกรมืออาชีพ

การสมัครเภสัชศาสตร์ มหิดล รอบ Portfolio เป็นโอกาสทองสำหรับน้องๆ ที่มีความมุ่งมั่นและมีผลงานโดดเด่น แม้จะแข่งขันสูงด้วยที่รับเพียง 20 คน แต่หากเตรียมตัวอย่างเป็นระบบและทำตามคำแนะนำในบทความนี้ โอกาสผ่านก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัว

จำไว้ว่า การเป็นเภสัชกรไม่ใช่แค่อาชีพ แต่เป็นพันธกิจในการดูแลสุขภาพของคนในสังคม หากเธอพร้อมแล้ว ก็เริ่มเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้!


ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม:

  • โทร: 02-354-3748 หรือ 098-949-2954
  • เว็บไซต์: https://pharmacy.mahidol.ac.th/admissions
  • อีเมล: suchanya.sea@mahidol.ac.th
  • Facebook: https://www.facebook.com/mupy.club

บทความนี้จัดทำขึ้นจากเอกสารเกณฑ์การรับสมัครอย่างเป็นทางการ อัปเดตล่าสุดสำหรับปีการศึกษา 2569

Previous Article

เกณฑ์รับสมัคร TCAS69 คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล รอบ 1.1

Next Article

สมัครเภสัชศาสตร์ มหิดล รอบ Quota TCAS 2569 | เกณฑ์ A-Level + เทคนิค

Write a Comment

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *